หลังจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับกลางและล่างในไทยซบเซาลงจากกำลังซื้อที่ยังไม่ฟื้นตัว ผู้ประกอบการอสังหาฯ หลายรายจึงเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายเข้าไปเจาะตลาดต่างชาติมากขึ้น โดยจีนถือว่าเป็นตลาดใหญ่ที่ให้ความสนใจอสังหาฯ ในต่างประเทศเป็นอย่างมาก สาเหตุที่ชาวจีนให้ความสนใจมาลงทุนอสังหาริมทรัพย์ไทย เนื่องจากราคาคอนโดมิเนียมในไทยมีราคาถูกว่าที่จีนหลายเท่าตัว ราคาสูงถึงประมาณ 4-5 แสนบาท/ตร.ม. จึงให้ผลตอบแทนที่มากกว่า โดยการลงทุนอสังหาฯ ในไทยให้ผลตอบแทน 7-8% ขณะที่จีนให้ผลตอบแทนเพียง 2% เท่านั้น โดยแต่ละปีจะมีนักลงทุนชาวจีนเข้ามาลงทุนในไทยประมาณ 5-7 พันล้านบาท/ปี และมีการเติบโตเฉลี่ย 10-20% ต่อปี ทั้งนี้ ชาวจีนส่วนใหญ่สนใจคอนโดมิเนียมทำเลติดรถไฟฟ้า BTS และ MRT อาทิ ย่านรัชดาภิเษก พระราม 9 สุขุมวิท ราคาประมาณ 5-6 ล้านบาท ส่วนในต่างจังหวัดนิยมลงทุนในภูเก็ต
โดยรายงานของเจแอลแอล (JLL) ระบุว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2560 นักลงทุนชาวจีนมีการลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการซื้ออสังหาริมทรัพย์โดยตรง การซื้อหุ้นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ หรือการลงทุนพัฒนาโครงการมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 13,000 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 28% จากช่วงเดียวกันของปี 2559 แม้ว่าจะมีมาตรการคุมเข้มการนำเงินลงทุนออกไปลงทุนในต่างประเทศของรัฐบาลจีน แต่กลับไม่กระทบการลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์เชิงธุรกิจในต่างประเทศมากนัก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะนักลงทุนจีนยังคงมีความต้องการสูงในการกระจายการลงทุนและบริหารจัดการความเสี่ยงในภาวะที่เศรษฐกิจภายในประเทศชะลอตัว นอกจากนี้ บริษัทจีนที่มีธุรกิจในฮ่องกงหรือสาขาในต่างประเทศยังคงสามารถลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศได้ผ่านบริษัทสาขา หรือใช้เงินทุนที่มีอยู่ในต่างประเทศ โดยเชื่อว่านักลงทุนจีนจะยังคงยังคงมีบทบาทสำคัญในตลาดการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลกต่อไป
ที่มา : ddproperty.com