นายสุรเชษฐ กองชีพรองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและพัฒนา บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าจากการประเมินการลงทุนโครงการบ้านพักผู้สูงวัยปัจจุบันคาดมีมูลค่า 1-2 หมื่นล้านบาทต่อปี ไม่รวมธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับศูนย์เวลเนสที่เปิดให้บริการในโรงพยาบาลถือเป็นตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มีศักยภาพขยายตัวได้อีกมากจากปัจจัยการเข้าสู่สังคมสูงวัยและความต้องการการดูแลในกลุ่มผู้สูงวัย อสังหาฯสูงวัย มีลูกค้าหลัก คือกลุ่มคนสูงวัยที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง และลูกหลานที่ซื้อให้กับผู้สูงวัย ถือเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อทั้งคู่ หากประเมินงบลงทุนต่อโครงการเมื่อเทียบกับที่อยู่อาศัยทั่วไปในจำนวนยูนิตที่เท่ากัน มูลค่าการลงทุนที่พักผู้สูงวัยจะสูงกว่าเพราะต้องออกแบบมาตรฐานและจัดแบ่งโซนให้สอดรับกับกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งต้องกำหนดมาตรฐานและคุณภาพสินค้าที่สูงขึ้น
นอกจากนี้จำนวนชาวต่างชาติวัยเกษียณ อาทิ ญี่ปุ่น จีน และยุโรป มองหาที่อยู่อาศัยในไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เพราะไทยมีข้อได้เปรียบ เช่น บริการทางสุขภาพมาตรฐานระดับโลก ราคาที่อยู่อาศัยที่ยังถือว่าถูกกว่าประเทศอื่นๆ วัฒนธรรมที่เป็นมิตร ภูมิอากาศเขตร้อนที่ไม่หนาวเกินไป รวมไปถึงการขอวีซ่าสำหรับวัยเกษียณมีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ที่ผ่านมามีโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุเปิดตัวหลายพื้นที่และยังมีอีกหลายโครงการที่เตรียมจะเปิดตัวต่อเนื่อง จากปัจจัยดังกล่าวมองว่า ความต้องการที่อยู่อาศัยของผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้แนวโน้มการพัฒนาอสังหาฯ ในไทยจากนี้จะมุ่งตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าวมากขึ้น คาดว่าในอีก 20 ปีข้างหน้าดีมานด์ในที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุจะมากถึง 80,000 ยูนิต
ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ